ความรู้ในการขับรถที่เสี่ยงต่ออันตราย
หมายถึง การขับรถบนถนนที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
เช่น ถนนลื่น ขึ้นลงเขาหรือขับรถทางไกล ซึ่งผู้ขับขี่ควรมีความรู้ต่าง ๆ ดังนี้
1. ขับรถขณะฝนตกถนนลื่น
ควรชะลอความเร็วรถให้ช้าลงกว่าปกติและทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มากขึ้น
ถ้าขับรถอยู่บนทางที่ให้รถขับสวนกันก็ควรเปิดไฟหน้ารถเพื่อเตือนให้รถที่วิ่งสวนมามองเห็น
เวลาจะหยุดรถควรใช้เกียร์ช่วยไม่ควรเหยียบเบรกโดยกะทันหันหรือหักพวงมาลัยรถอย่างฉับพลันเพราะอาจทำให้รถปัดหรือหมุนได้
2. การขับรถขึ้น-ลงเขาสูง
เวลาขับรถขึ้นเขาควรใช้เกียร์ต่ำที่มีกำลังพอเพราะถ้าเครื่องยนต์ไม่มีกำลังพอจะทำให้รถดับได้
ถ้ารถดับและไหลลงจากขาต้องเหยียบเบรกและใช้เบรกมือช่วย
ส่วนเวลาลงเขาก็ควรใช้เกียร์ต่ำเช่นกันเพื่อฉุดกำลังไม่ให้ไหลเร็วจนเกินไป
หรือคอยประคองรถด้วยการเหยียบเบรกชะลอให้รถช้าพอที่จะบังคับได้
3. การขับรถทางไกล
ในบางครั้งเมื่อมีความจำเป็นต้องขับรถเดินทางไกล ซึ่งอาจมีโอกาสประสบอุบัติเหตุได้
ดังนั้นผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตนดังนี้
ก. ตรวจสภาพและอุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถ
ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีและปลอดภัยก่อนออกเดินทาง ดังนี้
- ตรวจช่วงล่าง
คันส่งคันชักพวงมาลัย
- ตรวจยางทั้ง 4 ล้อ และยางอะไหล่ด้วย ยางไม่มีดอกควรเปลี่ยน น็อตล้อขันแน่นหรือไม่
วัดลมยางทั้ง 4 ล้อ
ให้ได้ขนาดเหมาะสมกับรถ และควรมีที่วัดลมยางติดไปด้วย
- เตรียมแม่แรงประจำรถ
เหลักขันแม่แรงและกุญแจขันแม่แรง พร้อมทั้งตรวจสอบว่าใช้การได้หรือไม่
- ตรวจระบบเบรก ผ้าเบรก
น้ำมันเบรก และตรวจเบรกมือว่าใช้การได้ดีหรือไม่
- ตรวจระบบเครื่องยนต์
ลองสตาร์ทเครื่องว่าเดินเรียบหรือไม่ ถ้าเครื่องเดินไม่เรียบอาจต้องเปลี่ยนหัวเทียนหรือทองขาว
- ตรวจดวงไฟหน้าทั้งสองดวง
รวมถึงไฟทุกดวงของรถ ต้องสว่างเพียงพอและให้การได้ดีทุกดวง ปรับไฟสูง - ไฟต่ำ
ให้ได้ขนาดตามที่กำหนดไว้ ถ้าหลอดขาวหรือฟิวส์ขาดให้เปลี่ยน
- ตรวจระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่
น้ำในหม้อน้ำ (รังผึ้ง) ถ้าหม้อน้ำแห้งหรือทางเดินของน้ำหมุนเวียนอุดตัน
เครื่องยนต์จะร้อน สังเกตได้จากหน้าปัดวัดความร้อน
อาจทำให้เสื้อสูบแตกหรือชาร์จละลาย
- ตรวจน้ำล้างกระจก
ท่อฉีดน้ำกระจกต้องไม่อุดตัน ที่ปัดน้ำฝนยังใช้การได้ดี
- ตรวจน้ำมันเครื่อง
และไส้กรองน้ำมันเครื่องจะต้องเปลี่ยนทุก 5,000 - 10,000 กม.
- ตรวจน้ำมันเชื้อเพลิงว่ามีเพียงพอหรือไม่
และไส้หม้อกรองน้ำมันเชื้อเพลิงต้องสะอาด ซึ่งจะต้องเปลี่ยนทุก 10,000- 20,000กม.น้ำมันเชื้อเพลิงต้องเติมให้ค่าออกเทนตรงกับสภาพรถซึ่งสามารถ สอบถามได้ตามสถานีบริการน้ำมันต่างๆ
- ตรวจระบบแตรว่าใช้การได้ดีหรือไม่
- ตรวจระบบแอร์
ถ้าน้ำยาแอร์ไม่พอ แอร์จะไม่เย็น และให้ตรวจดูสายพานแอร์ว่า
- ตรวจการรั่วไหลของน้ำ
น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่นต่าง ๆ
- นำรถไปอัดฉีดจาระบีล้อ
เติมน้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย
ข. เตรียมอุปกรณ์และอะไหล่ที่จำเป็นระหว่างทาง คือ
ฟิวส์ต่าง ๆ ของรถ หลอดไฟหน้า-หลัง แกลลอนหรือถังน้ำสำหรับเติมน้ำในหม้อน้ำ
แกลลอนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเชื้อเพลิง ไฟฉาย เครื่องดับเพลิงสำหรับรถ
น้ำยาปะอุดยางพร้อมเติมลมได้ด้วย เชือกไนล่อนขนาดนิ้วก้อยยาวประมาณ 10 เมตร
สำหรับลากรถเมื่อรถเสีย ชุดปฐมพยาบาล และไม้รองล้อทั้ง 4 ล้อ
ค. ก่อนขับรถทางไกล ผู้ขับขี่ควรพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ง. การขับรถทางไกลในระยะเกินว่า 150 กม. ควรมีอีกคนคอยเปลี่ยนขับ
จ. งดเว้นการดื่มสุรา หรือของมึนเมาทุกชนิด
ฉ. ถ้ามีฝนตกขณะเดินทาง น้ำโคลนกระเด็นเปื้อนไฟรถ
ควรหยุดรถแล้วเช็ดให้สะอาด
ช. ถ้าน้ำในหม้อน้ำหมดระหว่างขับรถ
เวลาเติมน้ำในหม้อน้ำควรใช้ความระมัดระวัง อย่าเอาหน้าเข้าใกล้มาก
เพราะน้ำจะดันฝาไอน้ำร้อนจะเข้าตาหรือถูกมือ
และอย่าเติมน้ำทันทีต้องปล่อยให้เย็นเสียก่อนมิฉะนั้นฝาสูบหรือเสื้อสูบจะแตก
ซ. ควรศึกษาแผนที่ คู่มือการท่องเที่ยว
ถามผู้รู้เมื่อเกิดปัญหา
ฌ. ขับรถปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น