ความรู้เกี่ยวกับการขับแซง หรือผ่านขึ้นหน้า
ผู้ขับขี่จะแซงขึ้นหน้ารถอื่น
1 ต้องให้เสียงสัญญาณดังพอที่จะให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถคันหน้าทาบตามความประสงค์
2 ในเวลากลางคืนให้สัญญาณไปสูงต่ำสลับกัน
3 ให้สัญญาณไปกะพริบทางขวา
เพื่อให้รถคันหลังรู้ว่าจะแซง
4 ดูในกระจกหลังว่ามีรถด้านหลังกำลังแซงขึ้นมาหรือไม่
5 ดูข้างหน้าว่ามีรถสวนทางมาหรือไม่
6 เมื่อผู้ขับขี่รถคันหน้าให้สัญญาณตอบแล้ว
จึงแซงขึ้นหน้าได้
ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นด้านซ้าย
เว้นแต่กรณี ดังต่อไปนี้
1 รถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวาหรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา
2 ทางเดินรถนั่นได้จัดแบ่งเป็นช่องเดินรถในทิศทางเดียวกัน
ตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไป การขับรถแซงด้านซ้ายตามข้อ1–2จะกระทำได้เมื่อไม่มีรถอื่นตามมาในระยะ
กระชั้นชิดและมีความปลอดภัยพอ
กระชั้นชิดและมีความปลอดภัยพอ
ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในกรณี ดังนี้
1 เมื่อรถกำลังขึ้นทางชันขึ้นสะพานหรือทางโค้ง
เว้นแต่มีเครื่องหมายจราจรให้แซงได้
2 ภายในระยะ 30 เมตร
ก่อนถึงทางข้าม ทางร่วมทางแยก วงเวียน หรือเกาะที่สร้าง
ไว้หรือทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ
ไว้หรือทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ
3 เมื่อมีหมก ฝน ฝุ่น หรือควัน
จนทำให้ไม่อาจเห็นทางข้างหน้าในระยะ 60 เมตร
4 เมื่อเข้าที่คับขันหรือเขตปลอดภัย
5 ห้ามขับแซงล้ำเข้าไปในช่องเดินรถประจำทาง
เมื่อได้รับสัญญาณขอแซงขึ้นหน้าจากรถคันที่อยู่ข้างหลัง
ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมีความเร็วช้า
หรือรถที่ใช้ความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถอื่นที่ขึ้นไป
ในทิศทางเดียวกัน ต้องยอมให้รถที่มีความเร็วสูงกว่าผ่านขึ้นหน้า
ผู้ขับขี่ขอทางต้องให้สัญญาณตอบ เมื่อเห็นว่าทางเดินรถข้างหน้าปลอดภัยและไม่มีรถ
อื่นสวนทางมาในระยะกระชั้นชิดและต้องลดความเร็วของรถ และขับชิดด้านซ้าย
ของทางเดินรถเพื่อให้รถที่จะแซงขึ้นหน้าแซงได้โดยปลอดภัย
ในทิศทางเดียวกัน ต้องยอมให้รถที่มีความเร็วสูงกว่าผ่านขึ้นหน้า
ผู้ขับขี่ขอทางต้องให้สัญญาณตอบ เมื่อเห็นว่าทางเดินรถข้างหน้าปลอดภัยและไม่มีรถ
อื่นสวนทางมาในระยะกระชั้นชิดและต้องลดความเร็วของรถ และขับชิดด้านซ้าย
ของทางเดินรถเพื่อให้รถที่จะแซงขึ้นหน้าแซงได้โดยปลอดภัย
อ้างอิง http://www.phokaewpolice.org/km.asp
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น